โรคไตเรื้อรังระยะที่ 5 (CKD)

โรคไตเรื้อรัง (CKD) เป็นภาวะที่การทำงานของไตลดลงเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป และอาจนำไปสู่ภาวะไตวายได้ในผู้ป่วยบางรายโรคไตเรื้อรัง (CKD)  ระยะที่ 5 บ่งบอกถึงภาวะไตวายหรือเรียกว่าโรคไตระยะสุดท้าย

ในขั้นตอนนี้ ผู้ป่วยควรตัดสินใจและวางแผนเกี่ยวกับการบำบัดทดแทนไต เช่น การล้างไต ผู้ป่วยอาจค่อย ๆ เข้าสู่ระยะนี้ ดังนั้นผู้ป่วยจึงได้รับข้อมูลทางเลือกในการรักษาอย่างครบถ้วน แต่อาจมีผู้ป่วยบางคนที่โชคไม่ดีที่ตรวจพบโรคไตวายเรื้อรังในระยะนี้ และต้องได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วจากทีมโรคไต

CKD_Stages_Thai

ภาพรวมของโรคไตระยะที่ 5

โรคไตเรื้อรัง (CKD) แบ่งออกเป็น 5 ระยะตามการทำงานของไต และการพบเลือดหรือโปรตีนในปัสสาวะหรือไม่

ในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะที่ 5 ไตจะไม่สามารถรักษาสมดุลของของเหลวได้ จึงมีสารพิษและเกลือสะสมมากขึ้น การตรวจเลือดเพื่อตรวจการทำงานของไต ระยะที่ 5 มีอัตราการกรองของไต (eGFR) น้อยกว่า 15 มล./นาที และมีอาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคไต เช่น โรคโลหิตจางและโรคกระดูกเมตาบอลิซึม

อาการของโรคไตเรื้อรังระยะที่ 5

โรคไตเรื้อรังระยะที่ 5 ผู้ป่วยมีแนวโน้มที่จะมีอาการต่างๆ ซึ่งอาจรวมถึง:

  • ความเหนื่อยล้า
  • หายใจถี่
  • อาการบวมที่มือและเท้า
  • ถุงใต้ตา
  • สีหรือปริมาตรของปัสสาวะเปลี่ยนไป
  • ปวดกล้ามเนื้อ
  • เบื่ออาหาร
  • คลื่นไส้และรับรสแย่ลง
  • การนอนมีปัญหา
  • คัน
  • สีของเล็บและผิวหนังเปลี่ยนไป

สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงอาการของไตวายและแจ้งให้แพทย์และทีมทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงหรืออาการใหม่ ๆ

ความเหนื่อยล้าและเบื่ออาหารเป็นอาการสำคัญ 2ประการในระยะนี้ สิ่งสำคัญคือต้องเฝ้าดูอาการเหล่านี้

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการของโรคไตต่างๆ

Female physician reviewing information with a man and woman

การวินิจฉัยโรคไตระยะที่ 5

หากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไตวายเรื้อรังในระยะที่ 5 ผู้ป่วยควรพบแพทย์โรคไตโดยด่วน แพทย์โรคไตจะประเมินอาการและเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับทางเลือกในการรักษาที่จำเป็น นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่เครียดและวิตกกังวลอย่างมาก สิ่งสำคัญคือต้องรวบรวมข้อมูลทั้งหมดสำหรับใช้ในการรักษา

ค้นหาคำถามสำคัญที่ต้องถามเมื่อพบแพทย์โรคไตเพื่อตัดสินใจอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการรักษา

Illustration of a female doctor speaking with a male patient

การรักษาโรคไตระยะที่ 5

โรคไตวายเรื้อรังระยะที่ 5 ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ผู้ป่วยอาจจะได้รับยาหลายชนิดที่ไม่เพียงแต่ช่วยการทำงานของไตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการจัดการปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่เกิดจากโรคไตวายเรื้อรัง เช่น โรคโลหิตจางและโรคกระดูกพรุน ก่อนที่โรคไตเรื้อรังจะดำเนินมาถึงขั้นที่ 5 นี้ ทีมแพทย์โรคไตจะประเมินและหารือเกี่ยวกับตัวเลือกการรักษาที่มี โดยเฉพาะการล้างไตและการปลูกถ่ายไต

ในบางสถานการณ์ หากการล้างไตและการปลูกถ่ายไตอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วย ผู้ป่วยอาจพิจารณาการดูแลแบบประคับประครอง

การดูแลแบบประคับประคองไม่ได้หมายความว่าผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาใดๆ ผู้ป่วยจะได้รับยาแทนการล้างไต

ผู้ป่วยแต่ละรายมีความแตกต่างกัน ดังนั้นเงื่อนไขและความชอบของผู้ป่วยจะได้รับการพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกการบำบัดทดแทนไตที่เหมาะกับผู้ป่วยที่สุด มื่อถึงเวลานี้ผู้ป่วยควรพร้อมที่จะเริ่มการบำบัดทดแทนไต

ตัวเลือกการรักษาโรคไต: การฟอกไตและการปลูกถ่ายไต

เมื่อเข้าสู่โรคไตระยะที่ 5 ผู้ป่วยควรเข้ารับการรักษา เช่น การฟอกไตหรือปลูกถ่ายไตควบคู่ไปกับการใช้ยา การฟอกไตเป็นวิธีทางการแพทย์ที่เลียนแบบการทำงานของไตที่แข็งแรง โดยการกรองเลือดผ่านเมมเบรนเพื่อกำจัดสารพิษออกจากร่างกายและรักษาสมดุลของของเหลว

การฟอกไตมี 2 ประเภทหลักๆ คือ การล้างไตทางช่องท้อง (PD) และ  การฟอกเลือด (HD) โดยทั่วไปแล้วการล้างไตทางช่องท้อง (PD) จะทำที่บ้าน ในขณะที่การฟอกเลือด (HD) จะทำในศูนย์ไตเทียม สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าอนาคต ผู้ป่วยอาจต้องสลับไปมาระหว่างการฟอกไต 2 ประเภทนี้ ขึ้นอยู่กับสภาวะทางคลินิกและความต้องการของผู้ป่วย

หากผู้ป่วยรักษาอยู่ในคลินิกโรคไต ผู้ป่วยอาจจะเลือกเลือกใส่สายสวนในช่องท้องเพื่อใช้ล้างไตทางช่องท้อง (PD) หรือ ทำเส้นเลือดเทียมที่แขนเพื่อใช้ในการฟอกเลือด (HD)

ทีมโรคไตจะทำการประเมินเรื่องการปลูกถ่ายไตให้กับผู้ป่วย ในบางประเทศ ผู้ป่วยบางคนอาจได้รับการปลูกถ่ายไตก่อนที่จะฟอกไต อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วผู้ที่เข้าเกณฑ์จะได้รับการปลูกถ่ายขณะฟอกไต

3. BAXTER_DTP_SubPage_4.0_Exercising on Dialysis.png

การจัดการโรคไตระยะที่ 5

การจัดการโรคไตเรื้อรังอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วย ดังนั้นคุณควรดำเนินกิจวัตรประจำวัน เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและรับประทานอาหารตามคำแนะนำ หยุดสูบบุหรี่และดูแลสภาวะสุขภาพอื่นๆ ด้วย ในระยะนี้ ผู้ป่วยอาจต้องไปโรงพยาบาลบ่อยๆ เพื่อติดตามสภาวะของไต ผู้ป่วยควรเริ่มการบำบัดทดแทนไตเมื่อจำเป็น

การบำบัดทดแทนไตควรเริ่มเมื่อไหร่?

แพทย์โรคไตจะประเมินว่าเมื่อใดเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มฟอกไตโดยพิจารณาจากอาการและผลการตรวจเลือดของผู้ป่วย ไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัวว่าผู้ป่วยควรเริ่มการล้างไตเมื่อใด การรักษาควรปรับให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และเป้าหมายในชีวิตของผู้ป่วย

ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตระยะที่ 5 ควรได้รับการประเมินทางคลินิกอย่างรวดเร็ว และอาจต้องเริ่มการฟอกไตอย่างเร่งด่วน

คำถามที่พบบ่อย